คุณมีปัญหาเช่นนี้หรือไม่?
ข้อดีของทนายความ
รายการที่สามารถเรียกค่าเสียหายได้
เกี่ยวกับเรา
อีเมลให้คำปรึกษา
CLOSE
สอบถามข้อมูลทางอีเมล
สอบถามข้อมูลทางอีเมล
กรุณากรอกแบบฟอร์มด้านล่างและส่งให้เรา
หลังจากได้รับอีเมลแล้ว เจ้าหน้าที่จะติดต่อคุณและถามรายละเอียดเกี่ยวกับคำถามของคุณ
ชื่อ
* กรุณากรอกชื่อของคุณ
หมายเลขโทรศัพท์
* กรุณาใส่หมายเลขโทรศัพท์ของคุณ
อีเมล
* กรุณาใส่อีเมลของคุณ
เนื้อหาการให้คำปรึกษา
* โปรดป้อนเนื้อหาของการให้คำปรึกษาของคุณ
นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ด้วยบริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัท”) อาจจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (โดยปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) เพื่อประโยชน์ในการให้บริการทางด้านกฎหมายและข้อมูลข่าวสารต่างๆ กับลูกค้า
ดังนั้น ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเคร่งครัด
บริษัทได้ดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่ที่ผ่านมาแล้ว แต่บริษัทได้เห็นถึงความสำคัญในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้นในยุคบรอดแบนด์ที่มีการก้าวหน้า จึงมีนโยบายหลักเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
นโยบายหลัก
บริษัทจะกำหนดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนอกเหนือจากวัตถุที่ประสงค์ที่กำหนดไว้
บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
ในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลเพื่อดูแลอย่างเหมาะสม และจัดให้มีมาตรการการป้องกันข้อมูลไม่ให้มีการรั่วไหลไปสู่ภายนอกและป้องกันเหตุละเมิดล่วงหน้าเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น จัดให้มีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมและสมเหตุสมผลต่อการป้องกันอันตราย เช่น การเข้าสู่ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย ทำลาย แก้ไขและการรั่วไหลของข้อมูล พร้อมทั้งการจัดการอย่างรวดเร็วกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล จะอยู่ในขอบเขตที่ให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น โดยคำนึงถึงการรักษาสิทธิของลูกค้า โดยบริษัทจะไม่เปิดเผยและให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สามนอกเหนือจากผู้ให้บริการของบริษัท โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า เว้นแต่กรณีเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบอื่นๆ
บริษัทจะรับเรื่องร้องเรียนและรับปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางและแบบฟอร์มที่บริษัทได้จัดทำไว้ และบริษัทจะดำเนินการป้องกันและแก้ไขอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว
บริษัทจะปรับปรุงระบบบริหารจัดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ด้วยบริษัทได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวไว้ บริษัทจึงต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการของบริษัทอย่างเคร่งครัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า โดยบริษัท จะประกาศหรือแจ้งวัตถุประสงค์ให้ทราบก่อนหรือขณะขอความยินยอมจากลูกค้า บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
ข้อมูลที่จะเก็บรวบรวม
ชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่ายใบหน้า
ที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลและใช้ประมวลผล
ที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก 2 ช่องทาง ดังนี้
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการทำงานตามสัญญากับบริษัท
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับตามข้อ 1. ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์
เพื่อให้คำปรึกษากฎหมาย ดำเนินงานด้านกฎหมาย งานด้านที่ปรึกษา การติดต่อ การให้ข้อมูล การทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ (Web Marketing) การจัดทำเว็บไซต์ และการตอบคำถามต่างๆ เพื่อดำเนินงานทางด้านกฎหมายตามที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้า เพื่อรับเอกสาร จดทะเบียนต่างๆ ที่จำเป็นในการดำเนินงานด้านกฎหมาย เพื่อสอบถามหาข้อมูลที่จำเป็นในการดำเนินงานด้านกฎหมาย เพื่อส่งจดหมาย บัตร ส.ค.ส. หรือการติดต่อประสานงานต่างๆ เพื่อแจ้งให้ทราบหรือส่งข้อมูลการสัมมนา หนังสือและข้อมูลข่าวสาร (News Letter) บริการด้านกฎหมายต่างๆ ที่บริษัทจัดขึ้น ให้บริการ หรือเกี่ยวข้อง หรือรับลงทะเบียนในกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อประกาศหรือลงประกาศในสื่อทุกประเภทเกี่ยวกับการบรรยายต่างๆ ที่บริษัทเกี่ยวข้อง เพื่อรับสมัครบุคลากรในการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับงานบุคคลและธุรการ (ด้านภาษี ประกันสังคมและอื่นๆ) และให้การศึกษา หรือใช้เป็นที่ติดต่อฉุกเฉิน เพื่อตอบคำถามสำหรับเรื่องที่สอบถาม เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาทางธุรกิจ หรือสัญญาอื่นใด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ได้แก่ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายจราจรทางบก กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นต้น เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำสัญญาการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท
ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้ที่สำนักงานของบริษัท โดยระยะเวลาการจัดเก็บรักษา 10 ปี หรือระยะเวลาตามที่กฏหมายกำหนดไว้ และเมื่อพ้นระยะเวลาการจัดเก็บไปแล้ว บริษัทจะทําลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บ โดยวิธีดังต่อไปนี้
การทำลายข้อมูลด้วยโปรแกรม การทำลายข้อมูลด้วยสนามแม่เหล็ก การทำลายข้อมูลแบบกายภาพ
การใช้ เปิดเผย หรือฝากข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ เปิดเผย หรือฝากข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ดังนี้
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ทนายความและพนักงานประจำบริษัท จะทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถี่ถ้วน เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ขอบเขตของวัตถุประสงค์ดังกล่าวเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าว
จะทำความเข้าใจในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน และจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายในขอบเขตที่ได้รับความยินยอมอย่างระมัดระวัง
ในกรณีมีเหตุที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกินขอบเขตที่กำหนดในวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าโดยทางโทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อจะได้รับความยินยอมต่อไป เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้นำไปใช้ได้
การประกาศวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะประกาศวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการใช้ และการเปิดเผยนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกระทำภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่กำหนดและภายในขอบเขตการยินยอมจากลูกค้า เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้
ในกรณีมีเหตุที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกินขอบเขตที่กำหนดในวัตถุประสงค์ บริษัท จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าโดยทางโทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อจะได้รับความยินยอมต่อไป เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปให้ผู้ให้บริการของบริษัท
ในกรณีที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัท จะกระทำภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่กำหนดและภายในขอบเขตการยินยอมจากลูกค้า
บริษัทจะคัดเลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานอย่างเพียงพอในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรับประกันถึงมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีมีเหตุที่ต้องนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ให้บริการเกินกว่าขอบเขตที่กำหนด บริษัท จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าโดยทางโทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อจะได้รับความยินยอมต่อไป
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานของผู้รับบริการหรือผู้ให้บริการ
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานของผู้รับบริการหรือผู้ให้บริการภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และจะไม่นำไปใช้นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์
การดูแลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท จะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมในการรักษาความปลอดภัยทางด้านองค์กร ด้านกายภาพ และด้านเทคโนโลยี และจะดำเนินงานอย่างเหมาะสมตามระเบียบของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต สูญหาย ทำลาย แก้ไขและรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง บริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น จัดให้มีการอบรม และให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดําเนินการ ดังต่อไปนี้
ทธิในการถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในกรณีที่บริษัทได้ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการขอดูข้อมูลส่วนบุคคลและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทอื่นหรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอน
สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
สิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เฉพาะในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็น หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิคัดค้านตามข้อ 4
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือหมดความจำเป็นในการเก็บรักษา หรืออยู่ระหว่างการพิสูจน์ตามที่กฎหมายกำหนด
สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
การวิเคราะห์ข้อมูล
เพื่อเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะใช้เว็บบีคอน (Web beacon) พิกเซล (Pixcel) แท็ก (Tag) Device Identifier คุกกี้ (Cookie) และเนื้อหาที่ป้อนเข้ามาในแบบฟอร์มสอบถาม เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการตลาด เช่น วิเคราะห์การเข้าชมและใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ บริษัทอาจจะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมไว้เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพื่อการให้บริการของบริษัท อันเกิดจากการใช้บริการของบุคคลที่สาม และในกรณีที่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะตรวจสอบข้อกำหนดก่อนจึงจะเริ่มใช้บริการ อนึ่ง บริษัท จะไม่มีการเปิดเผยซึ่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาเพื่อการวิเคราะห์ เว้นแต่กฎหมายสามารถกระทำได้
การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยแจ้งให้ท่านทราบตามขั้นตอนและวิธีการของบริษัท และได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนจะเริ่มดำเนินการ โดยนโยบายที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ และนโยบายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับทุกกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมทั้งบริษัทแม่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
การสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอันเกี่ยวกับการเปิดเผย แก้ไข ลบ หรืออื่นๆ โปรดติดต่อตามช่องทาง ดังนี้
ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทอาจจะเรียกร้องเอกสารที่แสดงตัวตนตามความจำเป็น
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : บริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด 246 อาคารไทมส์ สแควร์ ชั้น 11 ห้องเลขที่ 11-04 เอ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ : 02-254-5787
อีเมลล์ : info@alg-asean.com
ประกาศเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566
นายซึโทมุ คาวามูระ
ข้อตกลงในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด
ที่อยู่ : 246 อาคารไทมส์ สแควร์ ชั้น 11 ห้องเลขที่ 11-04 เอ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
โทรศัพท์ : 02-254-5787
อีเมลล์ : info@alg-asean.com
ผู้ประมวลผลข้อมูล :นายซึโทมุ คาวามูระ
วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อดำเนินงานทางกฎหมาย
เพื่อคัดเอกสารทางราชการ งานจดทะเบียนต่างๆ
เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆ
เพื่อติดต่อประสานงานต่างๆ
เพื่อแนะนำและให้บริการทางด้านกฎหมายต่างๆ
เพื่อบรรยายในประชุมทางวิชาการ สัมมนาหรือกิจกรรมการบรรยาย หรือการลงในเว็บไซต์ที่ดำเนินงานโดยบริษัท หรือเว็บไซต์ที่บุคคลที่สามนอกจากบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ หรือเว็บไซต์ที่ลงข้อมูลของทนายความในสังกัดของบริษัท หรือ แผ่นพับสำหรับประชาสัมพันธ์ของบริษัท หรือลงในหนังสือหรือสื่อที่บริษัทมีความเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างคดีที่บริษัทเคยดำเนินการ โดยใช้วิธีที่ไม่ระบุถึงตัวตนของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี
การเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลที่สาม
บริษัทอาจให้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้
ศาล หรือเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศของบริษัท หรือรัฐต่างประเทศ รวมทั้งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ
สำนักบริหารการทะเบียน (ในกรณีการยื่นขอคัดทะเบียนราษฎร์)
กรณีลูกค้าของบริษัทเป็นคู่ความกับคู่กรณี คู่กรณีได้แต่งตั้งทนายความ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลกับแก่ทนายความของคู่กรณีดังกล่าว
บุคคลหรือกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านกฎหมาย
ในกรณีลักษณะของการให้บริการของบริษัท มีความจำเป็นในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยหนังสือหรืออีเมลทุกครั้ง เว้นแต่เป็นการให้ข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
การให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการของบริษัท
บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่ได้รับมาตรฐานตามที่บริษัทกำหนด ในกรณีนี้ บริษัทจะทำสัญญารักษาความลับกับผู้ให้บริการดังกล่าวเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และการกำกับการใช้ข้อมูลที่จำเป็นและเหมาะสมต่อผู้ให้บริการ
การเปิดเผยต่างๆ
บริษัทอาจมีความจําเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกไปยังบริษัทแม่และ/หรือบริษัทในเครือ โดยจะมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ (appropriate safeguards) และจะสามารถบังคับใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาตามกฎหมายที่จะบังคับใช้ได้
กรณีที่ได้รับการร้องขอให้แจ้ง เปิดเผยและแก้ไขวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ลบ หยุดใช้งาน หรือหยุดให้ข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม (ต่อไปจะเรียกว่า “การเปิดเผยต่างๆ”) บริษัทจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและเหมาะสม ในกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยต่างๆ โปรดติดต่อ ดังนี้
บริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด โทรศัพท์ : 02-254-5787
อีเมลล์ : info@alg-asean.com
ความสมัครใจในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลและผลที่เกิดขึ้นต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว
การให้ข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ และกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท อาจมีข้อจำกัดในการให้บริการกับเจ้าของข้อมูลดังกล่าว
บริษัทอาจจะติดต่อทางอีเมลหรือโทรศัพท์
เพื่อขอทราบถึงความคิดเห็นจากลูกค้าอันเป็นการสำรวจความพึงพอใจในการให้บริการของบริษัท เพื่อยกระดับบริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
ผมเห็นด้วยกับนโยบายความเป็นส่วนตัว
* คุณต้องเห็นด้วย