นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ด้วยบริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัท”) อาจจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (โดยปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) เพื่อประโยชน์ในการให้บริการทางด้านกฎหมายและข้อมูลข่าวสารต่างๆ กับลูกค้า

ดังนั้น ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเคร่งครัด

บริษัทได้ดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตั้งแต่ที่ผ่านมาแล้ว แต่บริษัทได้เห็นถึงความสำคัญในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้นในยุคบรอดแบนด์ที่มีการก้าวหน้า จึงมีนโยบายหลักเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

นโยบายหลัก

  1. บริษัทจะกำหนดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนอกเหนือจากวัตถุที่ประสงค์ที่กำหนดไว้
  2. บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
  3. ในการดูแลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลเพื่อดูแลอย่างเหมาะสม และจัดให้มีมาตรการการป้องกันข้อมูลไม่ให้มีการรั่วไหลไปสู่ภายนอกและป้องกันเหตุละเมิดล่วงหน้าเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น จัดให้มีมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมและสมเหตุสมผลต่อการป้องกันอันตราย เช่น การเข้าสู่ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย ทำลาย แก้ไขและการรั่วไหลของข้อมูล พร้อมทั้งการจัดการอย่างรวดเร็วกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
  4. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล จะอยู่ในขอบเขตที่ให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น โดยคำนึงถึงการรักษาสิทธิของลูกค้า โดยบริษัทจะไม่เปิดเผยและให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สามนอกเหนือจากผู้ให้บริการของบริษัท โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า เว้นแต่กรณีเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบอื่นๆ
  5. บริษัทจะรับเรื่องร้องเรียนและรับปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางและแบบฟอร์มที่บริษัทได้จัดทำไว้ และบริษัทจะดำเนินการป้องกันและแก้ไขอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว
  6. บริษัทจะปรับปรุงระบบบริหารจัดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ด้วยบริษัทได้กำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวไว้ บริษัทจึงต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการของบริษัทอย่างเคร่งครัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

1.การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า โดยบริษัท จะประกาศหรือแจ้งวัตถุประสงค์ให้ทราบก่อนหรือขณะขอความยินยอมจากลูกค้า บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์

  1. ข้อมูลที่จะเก็บรวบรวม
    ชื่อ - นามสกุล ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่ายใบหน้า
  2. ที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลและใช้ประมวลผล
    ที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก 2 ช่องทาง ดังนี้
    บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการทำงานตามสัญญากับบริษัท
  3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับตามข้อ 1. ดังต่อไปนี้
    วัตถุประสงค์
    เพื่อให้คำปรึกษากฎหมาย ดำเนินงานด้านกฎหมาย งานด้านที่ปรึกษา การติดต่อ การให้ข้อมูล การทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ (Web Marketing) การจัดทำเว็บไซต์ และการตอบคำถามต่างๆ เพื่อดำเนินงานทางด้านกฎหมายตามที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้า เพื่อรับเอกสาร จดทะเบียนต่างๆ ที่จำเป็นในการดำเนินงานด้านกฎหมาย เพื่อสอบถามหาข้อมูลที่จำเป็นในการดำเนินงานด้านกฎหมาย เพื่อส่งจดหมาย บัตร ส.ค.ส. หรือการติดต่อประสานงานต่างๆ เพื่อแจ้งให้ทราบหรือส่งข้อมูลการสัมมนา หนังสือและข้อมูลข่าวสาร (News Letter) บริการด้านกฎหมายต่างๆ ที่บริษัทจัดขึ้น ให้บริการ หรือเกี่ยวข้อง หรือรับลงทะเบียนในกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อประกาศหรือลงประกาศในสื่อทุกประเภทเกี่ยวกับการบรรยายต่างๆ ที่บริษัทเกี่ยวข้อง เพื่อรับสมัครบุคลากรในการดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับงานบุคคลและธุรการ (ด้านภาษี ประกันสังคมและอื่นๆ) และให้การศึกษา หรือใช้เป็นที่ติดต่อฉุกเฉิน เพื่อตอบคำถามสำหรับเรื่องที่สอบถาม เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาทางธุรกิจ หรือสัญญาอื่นใด เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ได้แก่ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายจราจรทางบก กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นต้น เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณาเข้าทำสัญญาการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท
  4. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้ที่สำนักงานของบริษัท โดยระยะเวลาการจัดเก็บรักษา 10 ปี หรือระยะเวลาตามที่กฏหมายกำหนดไว้ และเมื่อพ้นระยะเวลาการจัดเก็บไปแล้ว บริษัทจะทําลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บ โดยวิธีดังต่อไปนี้
    การทำลายข้อมูลด้วยโปรแกรม การทำลายข้อมูลด้วยสนามแม่เหล็ก การทำลายข้อมูลแบบกายภาพ

2. การใช้ เปิดเผย หรือฝากข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ เปิดเผย หรือฝากข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ดังนี้

  1. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ทนายความและพนักงานประจำบริษัท จะทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถี่ถ้วน เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ขอบเขตของวัตถุประสงค์ดังกล่าวเท่านั้น และจะไม่นำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าว
    2. จะทำความเข้าใจในข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน และจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายในขอบเขตที่ได้รับความยินยอมอย่างระมัดระวัง
    3. ในกรณีมีเหตุที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเกินขอบเขตที่กำหนดในวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าโดยทางโทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อจะได้รับความยินยอมต่อไป เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้นำไปใช้ได้
  2. การประกาศวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทจะประกาศวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการใช้ และการเปิดเผยนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
  3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ในกรณีที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกระทำภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่กำหนดและภายในขอบเขตการยินยอมจากลูกค้า เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้
    2. ในกรณีมีเหตุที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกินขอบเขตที่กำหนดในวัตถุประสงค์ บริษัท จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าโดยทางโทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อจะได้รับความยินยอมต่อไป เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้
  4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปให้ผู้ให้บริการของบริษัท
    1. ในกรณีที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ผู้ให้บริการของบริษัท จะกระทำภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่กำหนดและภายในขอบเขตการยินยอมจากลูกค้า
    2. บริษัทจะคัดเลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานอย่างเพียงพอในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรับประกันถึงมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    3. ในกรณีมีเหตุที่ต้องนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ให้บริการเกินกว่าขอบเขตที่กำหนด บริษัท จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้าโดยทางโทรศัพท์หรืออีเมล เพื่อจะได้รับความยินยอมต่อไป
  5. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานของผู้รับบริการหรือผู้ให้บริการ
    บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานของผู้รับบริการหรือผู้ให้บริการภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และจะไม่นำไปใช้นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์

3.การดูแลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท จะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล และจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้มาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมในการรักษาความปลอดภัยทางด้านองค์กร ด้านกายภาพ และด้านเทคโนโลยี และจะดำเนินงานอย่างเหมาะสมตามระเบียบของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต สูญหาย ทำลาย แก้ไขและรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง บริษัทจะดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น จัดให้มีการอบรม และให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

4.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดําเนินการ ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในกรณีที่บริษัทได้ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  2. สิทธิในการขอดูข้อมูลส่วนบุคคลและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
  3. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทอื่นหรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอน
  4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  5. สิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เฉพาะในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็น หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิคัดค้านตามข้อ 4
  6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือหมดความจำเป็นในการเก็บรักษา หรืออยู่ระหว่างการพิสูจน์ตามที่กฎหมายกำหนด
  7. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

5.การวิเคราะห์ข้อมูล

เพื่อเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทจะใช้เว็บบีคอน (Web beacon) พิกเซล (Pixcel) แท็ก (Tag) Device Identifier คุกกี้ (Cookie) และเนื้อหาที่ป้อนเข้ามาในแบบฟอร์มสอบถาม เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการตลาด เช่น วิเคราะห์การเข้าชมและใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ บริษัทอาจจะนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ได้รวบรวมไว้เพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวเพื่อการให้บริการของบริษัท อันเกิดจากการใช้บริการของบุคคลที่สาม และในกรณีที่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะตรวจสอบข้อกำหนดก่อนจึงจะเริ่มใช้บริการ อนึ่ง บริษัท จะไม่มีการเปิดเผยซึ่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาเพื่อการวิเคราะห์ เว้นแต่กฎหมายสามารถกระทำได้

6.การเปลี่ยนแปลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยแจ้งให้ท่านทราบตามขั้นตอนและวิธีการของบริษัท และได้รับการยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนจะเริ่มดำเนินการ โดยนโยบายที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ และนโยบายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับทุกกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมทั้งบริษัทแม่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล

การสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอันเกี่ยวกับการเปิดเผย แก้ไข ลบ หรืออื่นๆ โปรดติดต่อตามช่องทาง ดังนี้ ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทอาจจะเรียกร้องเอกสารที่แสดงตัวตนตามความจำเป็น

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : บริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด
246 อาคารไทมส์ สแควร์ ชั้น 11 ห้องเลขที่ 11-04 เอ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
กรุงเทพมหานคร 10110
โทรศัพท์ : 02-254-5787
อีเมลล์ : info@alg-asean.com
ประกาศเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566
นายซึโทมุ คาวามูระ

ข้อตกลงในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด
ที่อยู่ : 246 อาคารไทมส์ สแควร์ ชั้น 11 ห้องเลขที่ 11-04 เอ ถนนสุขุมวิท
แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
โทรศัพท์ : 02-254-5787
อีเมลล์ : info@alg-asean.com
ผู้ประมวลผลข้อมูล :นายซึโทมุ คาวามูระ

2.วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

  1. เพื่อดำเนินงานทางกฎหมาย
  2. เพื่อคัดเอกสารทางราชการ งานจดทะเบียนต่างๆ
  3. เพื่อตรวจสอบข้อมูลต่างๆ
  4. เพื่อติดต่อประสานงานต่างๆ
  5. เพื่อแนะนำและให้บริการทางด้านกฎหมายต่างๆ
  6. เพื่อบรรยายในประชุมทางวิชาการ สัมมนาหรือกิจกรรมการบรรยาย หรือการลงในเว็บไซต์ที่ดำเนินงานโดยบริษัท หรือเว็บไซต์ที่บุคคลที่สามนอกจากบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ หรือเว็บไซต์ที่ลงข้อมูลของทนายความในสังกัดของบริษัท หรือ แผ่นพับสำหรับประชาสัมพันธ์ของบริษัท หรือลงในหนังสือหรือสื่อที่บริษัทมีความเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างคดีที่บริษัทเคยดำเนินการ โดยใช้วิธีที่ไม่ระบุถึงตัวตนของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี

3.การเปิดเผยข้อมูลต่อบุคคลที่สาม

บริษัทอาจให้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้

  1. ศาล หรือเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศของบริษัท หรือรัฐต่างประเทศ รวมทั้งกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ
  2. สำนักบริหารการทะเบียน (ในกรณีการยื่นขอคัดทะเบียนราษฎร์)
  3. กรณีลูกค้าของบริษัทเป็นคู่ความกับคู่กรณี คู่กรณีได้แต่งตั้งทนายความ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลกับแก่ทนายความของคู่กรณีดังกล่าว
  4. บุคคลหรือกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านกฎหมาย
    ในกรณีลักษณะของการให้บริการของบริษัท มีความจำเป็นในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยหนังสือหรืออีเมลทุกครั้ง เว้นแต่เป็นการให้ข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด

4.การให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการของบริษัท

บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่ได้รับมาตรฐานตามที่บริษัทกำหนด ในกรณีนี้ บริษัทจะทำสัญญารักษาความลับกับผู้ให้บริการดังกล่าวเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และการกำกับการใช้ข้อมูลที่จำเป็นและเหมาะสมต่อผู้ให้บริการ

5.การเปิดเผยต่างๆ

บริษัทอาจมีความจําเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกไปยังบริษัทแม่และ/หรือบริษัทในเครือ โดยจะมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ (appropriate safeguards) และจะสามารถบังคับใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล รวมทั้งมีมาตรการเยียวยาตามกฎหมายที่จะบังคับใช้ได้

กรณีที่ได้รับการร้องขอให้แจ้ง เปิดเผยและแก้ไขวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ลบ หยุดใช้งาน หรือหยุดให้ข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม (ต่อไปจะเรียกว่า “การเปิดเผยต่างๆ”) บริษัทจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและเหมาะสม ในกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยต่างๆ โปรดติดต่อ ดังนี้

บริษัท เอแอลจี แท็คซ์ แอนด์ ลอว์ ออฟฟิศ (ไทยแลนด์) จำกัด
โทรศัพท์ : 02-254-5787
อีเมล : info@alg-asean.com

6.ความสมัครใจในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลและผลที่เกิดขึ้นต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว

การให้ข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ และกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท อาจมีข้อจำกัดในการให้บริการกับเจ้าของข้อมูลดังกล่าว

7.บริษัทอาจจะติดต่อทางอีเมลหรือโทรศัพท์ เพื่อขอทราบถึงความคิดเห็นจากลูกค้าอันเป็นการสำรวจความพึงพอใจในการให้บริการของบริษัท เพื่อยกระดับบริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น